โรงแรมสามารถกันเสียงได้อย่างสมบูรณ์แบบได้อย่างไร?

สำหรับคนที่มักตื่นกลางดึก เสียงฝีเท้าในทางเดินตอนดึกและเสียงรบกวนจากห้องข้างๆ ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อคุณภาพการนอนหลับ โรงแรมระดับหรูส่วนใหญ่มีฉนวนกันเสียงที่ดีมาก พวกเขามีเคล็ดลับอะไรกันแน่?

① การติดตั้งฉนวนกันเสียงที่พื้น

พื้นโรงแรมทั่วไปส่วนใหญ่มักปูด้วยกระเบื้องเซรามิก หรือปูพรม ซึ่งมีราคาปานกลาง สบายตัว และสวยงามตรงตามความต้องการของสาธารณชน

ขอแนะนำให้เลือกใช้แผ่นพื้นไม้ก๊อกกันเสียง วัสดุชนิดนี้มีคุณสมบัติในการส่งผ่านเสียงและประสิทธิภาพในการลดเสียงรบกวนที่เหนือกว่า ไม่เพียงแต่สามารถดูดซับเสียงจากการเดินบนพื้นเท่านั้น แต่ยังมีบทบาทในการเป็นฉนวนกันเสียงสำหรับพื้นประเภทต่างๆ อีกด้วย

② การติดตั้งฉนวนกันเสียงที่หน้าต่าง

ในการออกแบบห้องพักแขก ควรปรับปรุงการปิดผนึกหน้าต่างให้ดีขึ้น และใช้กระจกที่หนาขึ้น หากห้องอยู่ติดถนน ควรให้ความสำคัญเป็นพิเศษ การใช้หน้าต่างพลาสติกผสมเหล็กเป็นวิธีการปิดผนึกที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอก การเพิ่มผ้าม่านหนาๆ ก็สามารถลดผลกระทบของเสียงรบกวนจากภายนอกต่อภายในได้เช่นกัน

③ การติดตั้งฉนวนกันเสียงที่ผนัง

ในการตกแต่งห้องพักแขก มักใช้ฉนวนกันเสียงระดับมืออาชีพ ซึ่งสามารถป้องกันการส่งผ่านเสียงในอากาศได้ทุกชนิดอย่างมีประสิทธิภาพ ผนังกันเสียงที่ทำจากวัสดุนี้ร่วมกับแผ่นยิปซัมและใยฝ้ายดูดซับเสียงนั้นมีประสิทธิภาพในการกันเสียงที่ดีมาก

นอกจากนี้ ในด้านการตกแต่งผนัง ควรทำให้พื้นผิวผนังมีลักษณะโค้งเว้าเล็กน้อย เช่น การใช้กระดาษติดผนัง วัสดุปิดผนัง และวัสดุอื่นๆ ในการตกแต่ง ซึ่งจะช่วยลดเสียงรบกวนได้ดีมาก

④ ฉนวนกันเสียงของประตู

ประตูห้องเป็นแหล่งกำเนิดเสียง จึงแนะนำให้ใช้ประตูไม้เนื้อแข็งที่มีความหนามากกว่า 45 มิลลิเมตรในการตกแต่งห้องพัก และควรติดแถบปิดช่องว่างให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ รวมถึงเพิ่มความสูงของธรณีประตู ซึ่งเทียบเท่ากับการเพิ่มฉนวนกันเสียงระหว่างบานประตูและพื้น นอกจากนี้ การใช้กระดาษติดผนังและแผ่นไม้สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการกันเสียงได้อีกด้วย สำหรับทางเดิน ร้านอาหาร และห้องประชุมในพื้นที่สาธารณะ สามารถใช้วัสดุอย่างเช่นแผ่นอะคูสติกเจาะรูบนผนังและพื้นผิวเพื่อลดการสะท้อนของคลื่นเสียงได้